Open top menu
วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

------Advertisement ----------



------------------------------------------------------------------------

**10 ความแตกต่างระหว่างฟุตบอลไทย-เวียดนาม**

.
การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างฟุตบอลของ 2 ชาติ หลังจากที่พบกัน ทีมชาติไทยเอาชนะทีมชาติเวียดนามไป 3-0 และทีม U19 พวกเขาจัด 6-0 ให้โค้ชฮอง อัน ตวน

.
1. เรียนรู้ต้นแบบจากพรีเมียร์ลีก
ก่อนปี 2007 ฟุตบอลไทยตกต่ำไปหมด ผู้เล่นที่มีคุณภาพลดลง ขณะที่ลีกไม่ได้รับความสนใจและหยุดอยู่กับที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) ได้ตัดสินใจนำรูปแบบวิธีการของอังกฤษมาใช้กับลีกอาชีพของประเทศนี้

หลังจากนั้น 8 ปี ฟุตบอลไทยได้เปลี่ยนไป พวกเขามีโครงสร้างที่มั่นคงมี 3 ระดับชั้น คือ ไทยพรีเมียร์ลีก (18 ทีม), ดิวิชั่น 1 (20 ทีม), ดิวิชั่น 2 (83 ทีม) ในประเทศเวียดนามจำนวนสโมสรของ V’League ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 2015 มีเพียง 22 ทีม โครงสร้างของการแข่งขันได้เปลี่ยนแปลงตลอดในเวลาหลายปีที่ผ่านมาเมื่อหลายสโมสรมีการล้มเลิกกะทันหันและเปลี่ยนเจ้าของ เช่น Navibank Sài Gòn, Sài Gòn Xuân Thành, K.Kiên Giang, V.Ninh Bình…

.
2. แต่ละสโมสรมีสนามเป็นของตัวเอง
หนึ่งสิ่งที่สโมสรในประเทศไทยจำเป็นต้องมีคือ สนามของตัวเอง ไม่ต้องมีขนาดความจุที่ใหญ่เกินไป แต่ต้องครบตามที่กำหนด โดยเฉพาะพื้นผิวหญ้าที่มีคุณภาพที่ดี การมีสนามเป็นของตนเองจะช่วยให้สะดวกในการสร้างรายได้ให้สโมสรจากการขายตั๋วและของที่ระลึก บางสโมสรสร้างสนามที่มีรูปแบบคล้ายสโมสรอังกฤษ เช่น ปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์สร้างสนามรูปแบบเดียวกับ สแตมฟอร์ดบริดจ์ (เชลซี), เมืองทองยูไนเต็ดสนามคล้ายกับ โอลด์ ทรัฟฟอร์ด ของแมนยู

ในเวียดนามสนามที่ใช้เป็นของท้องถิ่น สโมสรไม่ได้รับสิทธิในการจัดการ ทำให้แหล่งที่มาของรายได้ไม่แน่นอน สิ่งอำนวยความสะดวกของบางสนามยังค่อนข้างขาดแคลน คุณภาพของสนามหญ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งแถบพื้นที่ภาคเหนือนั้นแย่มาก สามารถทำให้ผู้เล่นได้รับบาดเจ็บได้ง่าย

.
3. ทำเงินได้มากจากลิขสิทธิ์โทรทัศน์
ควบคู่กับตั๋ว ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทำให้เกิดรายได้ขั้นพื้นฐานของสโมสรอาชีพ ประเทศไทยทำได้ดีมาก พวกเขาจัดการแข่งขันให้ตรงกับช่วงไพรม์ไทม์ (ช่วงเวลาที่มีผู้ชมมากที่สุด) จาก 18:00น. - 20:00น.
ค่าลิขสิทธิ์โทรทัศน์เพิ่มขึ้นจาก 5.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ระยะปี 2011 - 2013) เป็น 57 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะต่อมา เมื่อเร็วๆนี้ ทรูวิชั่นได้ทำสัญญาใหม่มูลค่า 115 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกินเวลาการถ่ายทอด 2016 - 2020

อย่างไรก็ตามค่าลิขสิทธิ์โทรทัศน์ของ V.League คือ ‘0’ โดยบริษัทร่วมหุ้น VPF (Vietnam Professional Football) ไม่เคยได้รับเงินจากสถานีโทรทัศน์ ในทุกปี สโมสร V.League ได้รับจำนวนเงินสนับสนุนลิขสิทธิ์โทรทัศน์จาก VPF จำนวนเงินดังกล่าวในความจริงแล้วเป็นเงินจากผู้บริจาคที่จ่ายให้ VPF เป็นค่าตอบแทนในการโฆษณา 15 นาที ต่อการแข่งขันบนจอโทรทัศน์
* ชลบุรีไม่ได้เป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศไทย แต่ตอนนี้พวกเขามีสปอนเซอร์เกือบ 10 ราย ช่วยให้สโมสรมีรายได้ที่มั่นคงมาก

.
4. ผู้เล่นไทยมีประกันภัย
1 ปีที่ผ่านมา AIA บริษัทประกันภัยที่มีชื่อเสียงได้ลงนามสัญญามูลค่า 380 ล้านบาท (12.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เงินสดรวมถึงการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้เล่น 34 สโมสร นี่จะทำให้ผู้เล่นเล่นด้วยความสะดวกสบายและทุ่มเมให้กับสโมสร
อย่างไรก็ตาม V.League ไม่มีบริษัทประกันที่จะสนับสนุนสโมสรแม้ว่ามีระดับความรุนแรง ความเสี่ยงในประเทศไทยค่อยๆลดน้อยลง ดังนั้นเมื่อผู้เล่นได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออุบัติ พวกเขาจะต้องพบกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการรักษา อนาคตไม่มีความแน่นอนถ้าสโมสรยังไม่มีการร่วมมือ โชคดีที่ 2 ผู้เล่น กองกลาง Tran Anh Khoa และ กองหน้า Abass ที่ได้รับบาดเจ็บเร็วๆนี้ ปัจจุบันสโมสรเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ (แอด: รายแรกเจ็บหนักมากที่เข่า รายที่สองเจ็บไม่น้อยที่ข้อเท้า ทั้งสองรายได้รับบาดเจ็บจากผู้เล่นชาวเวียดนาม)

.
5. ผู้ให้การสนับสนุนต้องการทำสัญญาระยะยาวกับไทย
Thai Premier League และ V.League มีผู้สนับสนุนหลักคือโตโยต้า แต่ระดับความน่าเชื่อถือและการให้ความร่วมมือแตกต่างกันมาก คู่ค้ารายใหม่จากญี่ปุ่นกับ V.League ฤดูกาล 2015 มีเงินลงทุนประมาณ 30 พันล้านดอง/ปี ในขั้นต้นมีระยะเวลาร่วมมือเป็นเวลาหนึ่งปี

อย่างไรก็ตามบริษัทได้สนับสนุนลีกอันดับหนึ่งของประเทศไทยในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากฤดูกาล 2013 – 2015 พวกเขาได้รับเงินสนับสนุน 200 ล้านบาท (ประมาณ 130 พันล้านดอง) แต่ไม่ได้จบเพียงแค่ฤดูกาล 2015 เท่านั้น ความร่วมมือครั้งนี้ได้รับการขยายสัญญาไปจนถึงฤดูกาล 2018 เป็นจำนวนเงินถึง 300 ล้านบาท

*ฮองอันยาลายเป็นทีม V.League ทีมเดียวในปี 2015 ที่ประกาศว่ามีรายได้ไม่น้อยกว่า 5 พันล้านดอง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายตั๋วและการจัดหาทุน ส่วนสโมสรที่เหลือไม่มีรายได้ส่วนนี้ บางส่วนยังต้องขอเงินจากงบประมาณรัฐ... ขณะที่บุรีรัมย์ยูไนเต็ด ทีมชั้นนำของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2013 มีรายได้เกือบ 300 พันล้านดอง

.
6. สโมสรปฏิเสธสินค้าลอกเลียนแบบ
สโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกมีสปอนเซอร์เครื่องแต่งกายที่มีชื่อเสียง (Nike, Grand Sport, Warrix, FBT, Kool, Pan, Ari) หรือผลิตเอง (อาร์มี่ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์, ชัยนาท และเชียงราย) คุณภาพของเสื้อคือสิ่งที่ต้องเอาใจใส่เป็นอย่างมากที่สโมสรของพวกเขาจะขายสู่แฟนๆ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6 แสน - 1 ล้านดอง (ประมาณ 900 – 1500 บาท) ถึงกระนั้นแฟนบอลจำนวนมากก็ซื้อ แฟนบอลชาวไทยปฏิเสธการซื้อเสื้อลอกเลียนแบบและสนุกกับการใส่มาเชียร์สโมสรที่สนาม พวกเขาใส่เสื้อสโมสรไปทุกที่ ไม่ใช่แค่สนามแข่งขัน
------Advertisement ----------


เสื้อที่สโมสรใน V.League ใช้ยังเป็นแบรนด์มือสมัครเล่น เสื้อสโมสร Hanoi T&T ใน V.League หายากมากมีสปอนเซอร์เครื่องแต่งกายคือ Kappa สโมสร SLNA, Dong Thap ผลิตเสื้อเอง ในขณะที่สโมสรอื่นๆใช้ของลอกเลียนแบบโลโก้ Adidas หรือ Nike สโมสรฮองอันยาลายขายเสื้อดีที่สุดใน V.League แต่การจัดจำหน่ายและคุณภาพอยู่ในระดับปานกลาง

.
7. มีสัมพันธ์ที่ดีกับหลายสโมสรในยุโรป
ประเทศไทยเคยมี Arsenal academy-JMG แต่ล้มเลิกไปแล้ว แต่คุณภาพของนักเตะเยาวชนของพวกเขาก็ดีมากเพราะมีการฝึกอบรมร่วมกับสโมสรยุโรป เช่น Everton, Reading, Leicester City... สโมสรอังกฤษที่มีอาคาเดมี่หรือการเปิดการฝึกอบรมในประเทศไทย ในทุกปีสโมสรที่มีชื่อเสียง เช่น Manchester United, Liverpool, Chelsea… มาทัวร์และนำไปสู่การแข่งขันที่มีคุณภาพ

*สโมสรเชลซีมีการแข่งขันกระชับมิตรกับทีมออลสตาร์ของไทยเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ในเวียดนามไม่ได้มีความสัมพันธ์กับสโมสรใหญ่ในยุโรป HAGL-Arsenal academy-JMG มีโปรแกรมฝึกอบรมกับต่างชาติ สโมสรยุโรปได้มีการมาเยี่ยมชมเวียดนามแต่ก็ไม่สม่ำเสมอ

นอกจากนี้โรงเรียนกีฬาในประเทศไทย มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่าเวียดนาม แม้วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยยังมีสนาม การฝึกอบรมที่มีคุณสมบัติเพื่อเป็นมืออาชีพ ในทีมชาติไทยที่ชนะเวียดนามไป 3-0 ที่ผ่านมา มีอย่างน้อยสองผู้เล่นที่เติบโตมาจากโรงเรียนกีฬาของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (น่าจะหมายถึงโรงเรียนเครืออัสสัมชัญ) เช่น กัปตันธีรทร บุญมาทันและสารัช อยู่เย็น

.
8. จิตสำนึกของผู้เล่น (แอด: มันชักจะลึกลงไปเรื่อยๆแฮะ =..อีโมติคอน smile
ผู้เล่นไทยมีความตระหนักในการรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองเพราะมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยตรง พวกเขามีสนามที่สวยงาม, ทุ่มเท่เพื่อเป็นไอดอลของแฟนบอล ขณะที่แฟนๆมากขึ้นพวกเขาก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น เมื่อย้ายไปสโมสรอื่นแฟนๆของพวกเขาก็จะติดตามไป แฟนบอลไทยนิยมชมชอบผู้เล่นที่ทั้งหล่อทั้งเล่นฟุตบอลเก่ง (แอด: เห้ย! ถ้าเก่งไม่จำเป็นต้องหล่อ แต่ถ้าหล่อก็ล่อใจดีนะเว้ย 555) เช่น ชาริล ชัปปุยส์, ธีรทร บุญมาทัน, ทริสตอง โด, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ฯ บรรดาผู้เล่นที่เป็นที่รู้จักจะรักษาภาพลักษณ์ จะไม่ค่อยเห็นพวกเขาปรากฏตามบาร์ ปาร์ตี้

ผู้เล่นเวียดนามยังไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้มากนัก เมื่อเร็วๆนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันที่แพ้ให้กับทีมชาติไทย ผู้เล่นทีมชาติเวียดนามบางคนไปบาร์ ทำให้ประชาชนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ คองเฟืองดาวรุ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเวียดนามก็อยู่ในเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้น สโมสรในเวียดนามไม่มีแพทย์ที่ดูแลเกี่ยวกับโภชนาการ, ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย... เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อจิตสำนึกของผู้เล่น

.
9. สโมสรมุ่งเน้นไปที่แฟนบอลเสมอ
สโมสรส่วนใหญ่ได้ยินถึงความต้องการ คิดหาวิธีที่จะดึงดูดแฟนๆจำนวนมากไปที่สนาม สำหรับพวกเขาสนามและชัยชนะที่งดงามเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ตอบแทนแฟนบอล ดังนั้นสโมสรจะพยายามเก็บรักษาฐานแฟนบอลตลอดทั้งฤดูกาล

ใน V.League สโมสรส่วนมากไม่รู้จักสร้างภาพลักษณ์ แฟนบอลหันไปวิพากษ์วิจารณ์สโมสรมีให้เห็นไม่ยาก แฟนบอลบางส่วนหันหนีให้กับสโมสรที่ตนเองชอบเมื่อสโมสรพวกเขาพ่ายแพ้ในการแข่งขัน

.
10. สมาคมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม (VFF) มีประมาณ 100 คน สำนักงานใหญ่มีพื้นที่ 7 ไร่ แต่จุดเด่นของหน่วยงานที่กำกับดูแลฟุตบอลเวียดนามกับอ่อนด๋อยมาก มุ่งเน้นที่การก่อสร้างลีกอาชีพจนไปถึงไปจ้างโค้ชให้กับทีมชาติ ล่าสุดมีการกล่าวหาว่ารับสินบน, ขาดผู้นำขาดความสามัคคี ไม่ต้องพูดถึงสถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง แม้กระทั่งประธานของพวกเขายังได้รับการลงโทษจากฟีฟ่า แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาได้ทำงานเป็นอย่างดี ช่วยให้ฟุตบอลไทยเติบโตเพิ่มขึ้นมาก พวกเขาโด่ดเด่นในย่านนี้ในฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง แม้กระทั่งฟุตซอล พวกเขาทะเยอทะยานที่จะชิงตั๋วไปฟุตบอลโลกปี 2020, เจ้าภาพฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2013… พวกเขาทำทั้งหมดด้วยจำนวนคนเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เมื่อเทียบกับ VFF

.
.

ปล. เป็นไงล่ะท่าน อย่าบ่นนะว่าเยอะ เพราะแอดขอบ่นแทน มันยาวมากกกกกกกกกกกกก ตั้งแต่เมื่อคืน ลืมแล้วลืมอีกจนเพิ่งจะเสร็จ 5555 ข้ามบ้างเมื่อรู้สึกขี้เกียจ
ปล2. ที่มา http://news.zing.vn/10-diem-khac-biet-giua-bong-da-Thai-Lan-va-Viet-Nam-post591463.html

.
.

By : @Ai

------------------------------------------------------------------------
เครดิต: รู้เรื่องเขาเรื่องจิ๊บจิ๋ว - War Elephant Team
Credit: https://www.facebook.com/WarElephant.N12

------Advertisement ----------


Different Themes
Written by Lovely

Aenean quis feugiat elit. Quisque ultricies sollicitudin ante ut venenatis. Nulla dapibus placerat faucibus. Aenean quis leo non neque ultrices scelerisque. Nullam nec vulputate velit. Etiam fermentum turpis at magna tristique interdum.

0 ความคิดเห็น