เมื่อไม่นานมานี้ “สื่อไต้หวัน” ได้ออกมารายงานว่า หญิงชรา วัย 80 ปี ได้โยนเงินออมที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต จำนวนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1,083,812 บาท เข้าไปเผาในกระถางธูปศาลพระภูมิเจ้าที่ จนทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ในบริเวณนั้นตื่นตระหนกตกใจกันอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องแปลกที่มีการเผาเงินจริง จนรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเข้าไปช่วยก่อนที่ไฟจะไหม้เงินนั้นหมด
โดยหลังจากหญิงชราคนดังกล่าว โยนเงินเผาในกระถางธูปก็ใช้ไม้เท้าพยุง เดินออกมาจากหน้าศาลอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงก็พบว่าประชาชนจำนวนมากช่วยกันเขี่ยเงินธนบัตรในกระถางธูปออกมากองกระจัดกระจายไว้ข้างกระถาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาตรวจนับกว่า 4 ชั่วโมง จึงรู้ว่ามีจำนวนเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
จากการสอบถามหญิงชรา ก็ยอมรับตรงๆ ว่าตัวเองเป็นคนเผาเงินนั้นเอง แต่หลังจากทราบเหตุผลก็ทำเอาทุกคนถึงกับเศร้าใจ เพราะหลังจากสามีของเธอเสียชีวิตไป เธอต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวและอยู่ในภาวะสมองเสื่อมจำได้บ้างไม่ได้บ้าง มีลูกชายแต่แยกกันอยู่คนละที่
จากนั้นผู้เป็นลูกชายได้เสนอให้เธอเข้ารักษาที่สถานพยาบาลโดยจะเอาไปอยู่โรงพยาบาลถาวร เธอจึงจะให้เงินนี้กับลูกชาย อยากให้เขากลับบ้านมาคุยรายละเอียดกัน เพราะว่าลูกชายนั้นไม่เคยกลับมาบ้านเลย เขาเลยเผาเงินเพื่อสิ่งที่ลูกชายอยากได้มากทิ้งซะ
หลังจากลูกชายทราบข่าวจึงรีบเดินทางไปหาผู้เป็นแม่ทันที เพราะเป็นห่วงเงินของแม่มาก มันเยอะมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันถูกเผาไปแล้ว แต่เขาจะต้องโดยข้อหา เพราะการเผาเงินนั้นผิดกฏหมายในประเทศ จึงขอร้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเรื่องให้ผู้พิพากษา หวังว่าจะสามารถอภัยให้แม่ผู้ชราของเขาได้
ที่มา : kchiwit.com
วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น