บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เปิดเผยว่า น้องอินนับถือตนเองเหมือนตนเป็นคนในครอบครัวและให้คำปรึกษากันตลอดมา น้องอินเป็นเด็กที่ตั้งใจทำงาน มีงานอะไรตนเองก็จะเรียกน้องไปทำ น้องก็ไม่เคยปฏิเสธ ล่าสุดเมื่อวานน้องอินได้ทักแชทมาหาตนเองว่าเมื่อไหร่จะว่าง จะขอคำปรึกษา เพราะก่อนหน้านี้เคยคุยกันและทราบว่าน้องอินกำลังจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ตนจึงบอกไปว่าจะทำอะไรต้องใจเย็นๆ มาคุยกันก่อน ก่อนหน้านี้ 3-4 วันตนเองและครอบครัวน้องได้ไปนั่งกินข้าวกัน โดยมีแม่น้อง มีน้องอิน ตนเองและเพื่อนอีกคนหนึ่ง ไม่คิดว่าจะเป็นการได้เจอกันเป็นครั้งสุดท้าย และไม่มีลางสังหรณ์นอกจากเห็นว่าหน้าน้องดูเศร้า กระทั่งเมื่อเช้าจึงทราบว่าน้องประสบอุบัติเหตุ
สำหรับน้องอินเพิ่งขับรถเป็นได้ประมาณ 3 ปี หลังจากอายุถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ได้ ตนเองก็เคยเตือนแม่น้องอินไปแล้วว่าอย่าเพิ่งออกรถให้น้องอิน เพราะเพิ่งขับรถเป็นยังมือใหม่อยู่ แต่แม่ก็ตามใจ ประมาณ 1 ปีที่แล้วตนเองได้นั่งรถกับน้องอิน และเป็นรถคันเกิดเหตุก็พบว่าน้องอินเป็นคนที่ขับรถเร็ว ยังไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ ซึ่งตนเองก็ยังเตือนน้องอินอยู่เลย ทั้งนี้ทราบว่าน้องอินไปเที่ยวที่พัทยากับกลุ่มเพื่อนจากนั้นได้ขับรถมาเยี่ยมเพื่อนที่ จ. พระนครศรีอยุธยา และขณะเกิดเหตุน่าจะขับรถกลับคอนโดที่พักในกทม.จนกระทั่งมาประสบอุบัติเหตุ




ที่มา : socialnews
0 ความคิดเห็น