Open top menu
วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ย้อนรอย "วิสามัญ" คดีในตำนาน "โจ ด่านช้าง" ตาย 6 ศพ

คดีนี้ไม่ใช่คดีแรก ที่เจ้าหน้าที่เลือกวิธี "วิสามัญฆาตกรรม" ในอดีตก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้บ่อยครั้ง เพียงแต่สมัยก่อน น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นภาพรุนแรงในวินาทีเกิดเหตุ ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบัน

คดีดังในตำนานที่ผู้คนยังกล่าวขวัญ คือ คดีวิสามัญฆาตกรรม 6 ศพ กลุ่มนักค้ายาของ นายสุพฤกษ์ หรือ สุเทพ เรือนใจมั่น "โจ ด่านช้าง"…ย้อนไปเมื่อปลายปี 2539 ช่วงตะวันใกล้ลับฟ้า กลุ่มคนร้าย 6 คน ควบรถกระบะโตโยต้าสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ป-2888 สุพรรณบุรี พร้อมอาวุธปืน และปืนสงคราม M-79 บุกบ้าน นายอุบล หรือ เล็ก บุญช่วย เลขที่ 64 หมู่ 6 ต.วังพลับ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี

กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 6 บุกบ้านหลังนี้เพราะมีเป้าหมาย จะล้างหนี้แค้น เพราะ นายอุบล คือ พ่อค้าอาวุธสงครามและเอเย่นต์ "ยาม้า" (สมัยนั้นเรียกยาบ้าว่า "ยาม้า") เพราะระยะหลังได้ตีตัวออกห่างจากกลุ่ม "โจ ด่านช้าง" และพวกจึงหวังจะตามมาเก็บ แต่เพราะแคล้วคลาดหรือดวงดีก็ไม่รู้ นายอุบล กลับไม่อยู่บ้าน เพราะต้องไปขึ้นศาลในคดีกรรโชกทรัพย์ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ไหวตัวแจ้งตำรวจ สภ.บางตาเถร

เมื่อกลุ่ม "โจ ด่านช้าง" รู้เข้า จึงได้จับตัว นางน้ำค้าง บุญช่วย พี่สาวนายอุบลเป็นตัวประกัน แล้วบังคับให้พายเรือหนีไปยังฝั่งตรงข้ามเพื่อหนีเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีหัวหน้าครอบครัวเป็นชายพิการ ภรรยา และลูกสาววัย 11 ปี

สำหรับสภาพบ้านหลังนี้ เป็นบ้านที่ตั้งอยู่โดดๆ มีน้ำประมาณสูงเลยเข่า แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สื่อข่าว และไทยมุง ต่างล้อมบ้านเฝ้าสังเกตการณ์... ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค รองอธิบดีกรมตำรวจ (ขณะนั้น) พร้อมด้วยตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ สั่งการจับกุมคนร้ายด้วยตัวเอง ขณะที่ โจ ด่านช้าง ได้ขอพบ จ.ส.ต.สกุล สวนดอกไม้ ตำรวจ สภ.อ.ด่านช้าง และ พ.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบก.ป. (ในขณะนั้น)

 

คนร้ายถูกหามเป็นศพออกจากบ้าน

 

เกือบเที่ยงในวันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย นำโดย พ.ต.อ.อัศวิน ซึ่งถอดชุดตำรวจ สวมเสื้อสีขาว เดินเข้าไปพบคนร้าย หลังเจรจาอยู่นาน คนร้ายยอมปล่อยตัวประกันออกมา พร้อมกับมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เข้าใส่กุญแจมือ และพาเดินลุยน้ำออกมา มุ่งหน้าไปยังถนน ซึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 50 เมตร ระหว่างนั้น จู่ๆ กลุ่มตำรวจก็ได้พา 6 คนร้ายเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง บอกว่าไม่พบอาวุธปืนเอ็ม-79 และเอ็ม 16 ที่ซุกซ่อนไว้ในบ้าน จึงพากลุ่มคนร้ายเข้าไปเอา 

เมื่อเข้าไปในบ้าน ปรากฏว่าได้มีเสียงปืนดังสนั่นติดต่อกันหลายสิบนัด ตำรวจที่คุมเชิงด้านนอก ชาวบ้าน และผู้สื่อข่าว ต่างตกใจ เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบ 6 คนร้ายถูกยิงตายคาที่ ซึ่งตำรวจระบุว่า ระหว่างหาอาวุธ 1 ในคนร้ายได้หยิบปืนจากที่ซ่อนมาต่อสู้...!?

เหตุการณ์ยิงสนั่นในบ้านห้องปิดตาย ทำให้เกิดคำถามมากมาย ว่าทำ "เกินกว่าเหตุหรือไม่...!??" พ.ต.อ.อัศวิน กล่าวหลังเกิดเหตุว่า หลังจากเจรจาสำเร็จ คนร้ายปล่อยตัวประกันทั้งหมด ก็ได้เดินออกมาจากบ้าน และมายืนอยู่ที่บันไดข้างล่าง จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น มาทราบภายหลังว่าคนร้ายพุ่งไปหยิบปืนจะยิงตำรวจ เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่เกินกว่าเหตุตามที่พูดกัน

พล.ต.อ.พจน์ บุญยะจินดา อธิบดีกรมตำรวจ ยืนยันว่า ตำรวจทำไปตามหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกันเป็นสำคัญ การยิงต่อสู้กันและคนร้ายเสียชีวิตไม่ใช่เรื่องทำเกินกว่าเหตุหรือหน้าที่

เรื่องดังกล่าวกลายเป็นเรื่องใหญ่ ขนาดสื่อต่างชาติก็รายงานเรื่องนี้ ขณะที่องค์กรต่างๆ ก็ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน จนกระทั่ง พล.ต.อ.พจน์ อธิบดีกรมตำรวจ บอกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนญาติผู้เสียชีวิต ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ นายคณิต ณ นคร อัยการสูงสุด (ขณะนั้น)

ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.เสรี เตมียเวส รอง ผบช.ก. ได้แสดงความคิดเห็นว่า เรื่องนี้ตนรับไม่ได้ ข่าวที่ออกมาประชาชนสะใจกับการกระทำดังกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องฝืนความรู้สึกและจิตใจ เมื่อผู้ต้องหามามอบตัวแล้ว กลับเข้าไปถูกยิงตาย ตนไม่เชื่อว่าคนร้ายจะแย่งปืนตำรวจได้ "อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้"

 

พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ลงพื้นที่ขณะเกิดเหตุ

 

9 มี.ค.41 ได้มีคำสั่ง พล.ต.ท.เสรี เตมียเวส ผบช.ก. เป็นหัวหน้าสอบสวนชุดใหม่ จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานที่วัดรองทอง ต.บางใหญ่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เพราะบ้านหลังดังกล่าวถูกรื้อไปสร้างกุฏิแล้ว พบแผ่นไม้ 3 แผ่น มีรูกระสุน รวม 23 รู

ต่อมา 25 มี.ค.41 พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อธิบดีกรมตำรวจ เป็นประธานการประชุม ก.ตร. เรื่องการโยกย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีวิสามัญฆาตกรรม 6 ศพ ซึ่ง ก.ตร. ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยในการโยกย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีดังกล่าว เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นนาน 2 ปีแล้ว และกรมตำรวจไม่ได้นำหลักฐานหรือข้อมูลใหม่ที่จะมีเหตุผลเพียงพอที่จะย้าย ถ้าหากย้ายจะถูกมองว่ากระทำผิด จึงได้มีการเสนอให้ลงคะแนนลับ

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ได้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง ต่อมา พนักงานอัยการประจำศาลแขวงสุพรรณบุรี ได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้ชันสูตรพลิกศพ กระทั่ง 8 ต.ค.42 ศาลแขวงสุพรรณบุรี ได้พิเคราะห์ข้อเท็จจริง หลังจากมีการยื่นบัญชีพยาน 130 ปาก ฟังความได้ว่า โจ ด่านช้าง และพวก 6 คน ถูก 3 นายดาบตำรวจยิงเสียชีวิต ขณะเกิดเหตุนำอาวุธปืนที่ซ่อนไว้มายิงต่อสู้ ขณะที่พ่อของโจ ก็ยอมรับคำตัดสิน

และในคดีดังกล่าวนี้ ทางรายการ "ข่าวดังข้ามเวลา" ได้มีการสัมภาษณ์ชาวบ้านที่ได้อยู่กับคนร้าย ชาวบ้านต่างยืนยันกันว่าคนร้ายจิตใจดี ไม่มีพิษมีภัย หนำซ้ำยังน่าสงสาร เมื่อออกไปนึกว่าจะได้มอบตัว กลับแปลกใจที่โดนยิงซะงั้น ซึ่งจากนิสัยใจคอที่ได้คลุกคลีกับคนร้ายมา แม้ในระยะเวลาไม่กี่วัน แต่ก็ไม่เชื่อว่าคนร้ายจะขัดขืนต่อสู้ตำรวจได้

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์, สำนักข่าวไทย TNAMCOT , thaijobsgov
Different Themes
Written by Lovely

Aenean quis feugiat elit. Quisque ultricies sollicitudin ante ut venenatis. Nulla dapibus placerat faucibus. Aenean quis leo non neque ultrices scelerisque. Nullam nec vulputate velit. Etiam fermentum turpis at magna tristique interdum.

0 ความคิดเห็น