กัปตันทำประตูในเกมลีกไปแล้วทั้งสิ้น 99 ประตูตลอดอาชีพอันรุ่งโรจน์ของเขาที่ลิเวอร์พูล โอกาสนี้เราได้คัดเลือกประตูอันน่าจดจำที่สุดมาให้ชม
จากประตูแรกของเขาจนถึงจุดโทษที่ยิงเข้าไปอย่างสงบนิ่งในสัปดาห์ที่แล้ว การจัดลำดับของเรายังรวมถึงบางประตูที่อยู่ในความทรงจำอย่างแท้จริง
เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ (แอนฟิลด์, ธันวาคม 1999)
กัปตันทำประตูแรกของเขาในสีเสื้อลิเวอร์พูลในเกมกับเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ และเป็นเพียงประตูเดียวในฤดูกาล 1999-2000 ด้วยการเลี้ยงบอลซิกแซก แล้วตามด้วยการจบสกอร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แอนฟิลด์, มีนาคม 2001)
ระหว่างฤดูกาล 2000-01 เจอร์ราร์ดทำ 7 ประตูในเกมลีก รวมถึง ประตูที่ยิงไกลอย่างสวยงามในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนทำให้ฟาเบียง บาร์กเตซ ได้แต่ตกตะลึง
เอฟเวอร์ตัน (กูดิสัน พาร์ค, กันยายน 2001)
หนึ่งในสามประตูในเกมลีกที่เจอร์ราร์ดทำได้ในฤดูกาลนี้ เกิดขึ้นในเกมพบกับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเป็นประตูที่เปี่ยมไปด้วยความเลือดเย็น และเด็ดขาด เขาแตะบอลออกจากใต้เท้าของเขา และหวดมันกลับไป บอลนั้นส่ายผ่านหน้า พอล เจอร์ราร์ด และเข้าไปที่มุมบนสุดของประตู
ท็อตแนม (ไวท์ ฮาร์ต เลน, มีนาคม 2003)
กัปตันทำได้ 5 ประตูในลีกระหว่างฤดูกาล 2002-03 ประตูเกิดขึ้นในเกมที่พบกับสเปอร์ส เราได้เห็นเขารับบอลจากเส้นกึ่งกลางสนาม เลี้ยงขึ้นไป และยิงเลียดต่ำผ่านมือ คาเซย์ เคลเลอร์ เข้าไป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (แอนฟิลด์, กุมภาพันธ์ 2004)
ในฤดูกาล 2003-04 เราได้เห็นเจอร์ราร์ดยิงได้ 4 ประตูในลีก รวมทั้งประตูที่จบสกอร์อย่างว่องไวต่อหน้าอัฒจันทร์เดอะค็อป ที่ช่วยให้ทีมของเชรา อุลลิเย่ร์ คว้าชัยชนะเหนือซิตี้ 2-1
มิดเดิ้ลสโบรซ์ (แอนฟิลด์, เมษายน 2005)
จาก 7 ประตูในลีกของเจอร์ราร์ด ในฤดูกาล 2004-05 นี่คือ ประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างไม่มีข้อสงสัย บอลที่ถูกโยนมาอย่างสมบูรณ์แบบให้แก่กัปตันในระยะ 30 หลาจากประตู และเขาจัดการส่งมันออกไปด้วยลูกยิงฮาล์ฟ วอลเล่ย์ ตุงตาข่ายต่อหน้าเดอะค็อป
นิวคาสเซิล (เซนต์ เจมส์ พาร์ค, มีนาคม 2006)
เจอร์ราร์ดทำ 10 ประตูในลีกระหว่างฤดูกาล 2005-06 หนึ่งนั้นในเกมกับนิวคาสเซิล เป็นการสร้างสรรค์อย่างยอดเยี่ยมที่เขาโหม่งบอลตั้งให้ปีเตอร์ เคร้าซ์ ก่อนตวัดยิงบอลที่ถูกเขี่ยกลับมาผ่านมือ เชย์ กิฟเว่น เข้าไป
ชาร์ลตัน (เดอะ วัลเลย์, ธันวาคม 2006)
สตีวี่ยิงประตูในเกมลีก 7 ประตูในฤดูกาล 2006-07 ชาร์ลตันเป็นหนึ่งทีมที่โดน เมื่อมิดฟิลด์หมายเลข 8 สอดขึ้นไปในเขตโทษ และยิงประตูอย่างสวยงามผ่านมือ โธมัส ไมร์
นิวคาสเซิล (เซนต์ เจมส์ พาร์ค, พฤศจิกายน 2007)
ฟรีคิกที่เร็วปานจรวด คือ 1 ใน 11 ประตูในลีกที่กัปตันทำได้ระหว่างฤดูกาล 2007-08 เจอร์ราร์ดยิงจากระยะ 30 ห่าง และบอลพุ่งเข้าสู่มุมตาข่ายของกิฟเว่น ทิ้งความหวาดหวั่นไว้ที่เซนต์ เจมส์
มิดเดิ้ลสโบรซ์ (แอนฟิลด์, สิงหาคม 2008)
เจอร์ราร์ดทำ 16 ประตูในเกมลีก ในฤดูกาลที่ทีมหงส์แดงของราฟาเข้าใกล้ถ้วยแชมป์ที่สุด ประตูนี้มาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในเกมแรกของฤดูกาลที่แอนฟิลด์ ซึ่งจะอยู่ในความทรงจำของบรรดาค็อปไพต์ที่ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในเกมวันนั้น
โบลตัน (รีบ็อก สเตเดียม, สิงหาคม 2009)
ลิเวอร์พูลต้องยิงประตูตีเสมอถึงสองครั้งที่รีบ็อก จนกระทั่งเจอร์ราร์ดสอดขึ้นมาพร้อมกับลูกวอลเล่ย์ในนาทีที่ 83 สร้างชัยชนะสุดดราม่า โดยทั้งฤดูกาล เขาทำได้ 9 ประตูในลีกระหว่างฤดูกาล 2009-10
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (โอล แทร็ฟฟอร์ด, กันยายน 2010)
ลิเวอร์พูลอาจพ่ายแพ้ในเกมนี้ แต่พวกเขาได้แสดงถึงนิสัยการต่อสู้ เพื่อกลับมาจากการตามหลัง 2-0 ที่โอลแทร็ฟฟอร์ด ประตูที่ 2 ของเจอร์ราร์ดเป็นฟรีคิกที่ดีทีเดียว และมันคือหนึ่งในสี่ประตูจากเกมลีกที่เขาทำได้ในฤดูกาล 2010-11
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แอนฟิลด์, ตุลาคม 2011)
กัปตันทำให้มันดูง่ายดาย ขณะที่เขาตวัดบอลผ่านมือ เดวิด เด เกอา ต่อหน้าเดอะค็อป ทำให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในห้าประตูที่เขาทำได้ในลีกตลอดฤดูกาลดังกล่าว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เอติฮัด สเตเดียม, กุมภาพันธ์ 2013)
เจอร์ราร์ดทำ 9 ประตูในลีกเมื่อปีที่แล้ว แต่น้อยนักที่จะน่าทึ่งอย่างลูกยิงฮาล์ฟ วอลเล่ย์ ในเกมกับซิตี้ที่เอติฮัดลูกนี้ เหมือนย้อนกลับไปสู่เจอร์ราร์ดคนเก่า ประตูนี้กัปตันทำให้ โจ ฮาร์ต ไม่มีโอกาสจากลูกยิงนอกเขตโทษ
คริสตัล พาเลซ (แอนฟิลด์, ตุลาคม 2013)
เมื่อเขาทำประตูด้วยลูกยิงที่จุดโทษในเกมกับพาเลซในบ้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ทำลายสถิติของบิลลี่ ลิดเดลล์ ที่เคยทำประตูได้ 14 ฤดูกาลติดต่อกันให้แก่ลิเวอร์พูล ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นในฤดูกาลนี้...
credit: เวบทางการ
0 ความคิดเห็น