Open top menu
วันพฤหัสบดีที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2561

เราไม่รู้เลยว่าพวกเรา 6 คนพี่น้อง 6 ใบเถาใช้ชีวิตผ่านกันมาได้ยังไง เราเป็นลูกสาวคนโต เราได้เห็นกับตาว่าเพื่อที่จะมีลูกชายไว้สืบทอดตระกูล พ่อแม่พยายามกันแค่ไหน แต่จนแล้วจนรอด กลับมีแต่ลูกสาวถึง 6 คน…

พ่อหน้าดำคร่ำเคร่งขึ้นทุกวัน ส่วนแม่ก็หน้าซีดลงทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีลูกชายสักที! คุณย่าเห็นอย่างนั้นก็เลยบอกว่า : “ซงเหอไม่ต้องมีลูกแล้ว ลูกสาวก็ลูกสาว สมัยนี้มีลูกสาวก็ไม่ต่างจากลูกชาย ถ้าลูกสาว 3 คนเท่ากับลูกชาย 1 คนงั้นบ้านเราก็มีลูกชาย 2 คนแล้วไม่ใช่หรอ?”

พ่อดูดบุหรี่ไปมองหน้าย่าไป ไม่พูดอะไร

เมื่อลูกสาว 6 คนต้องไปโรงเรียน กลับมาบ้านก็ต้องกินข้าว ต้องใส่เสื้อผ้า ต้องมีชีวิต ในหมู่บ้านเล็กๆที่ไม่รู้จะไปหาเงินมาจากไหน ความลำบากของพ่อแม่ก็ไม่ยากเกินจะจินตนาการ พ่อเป็นคนมีความยืดหยุ่น ท่านไม่ได้ทำไร่ไถนามาตั้งแต่แรก พ่อไปขุดคูสองทั้งสองฝั่งของถนนเข้าหมู่บ้าน เวลาไม่มีอะไรทำก็ไปตกปลาที่นั่น สมัยนี้คนในเมืองชอบกินของสดๆ ปลาในแม่น้ำราคาดีกว่าปลาเลี้ยง 3-4 เท่า บ้านเรา 10 ชีวิต ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานของพ่อกับแม่ ก็สามารถผ่านมาได้

ชีวิตจะดีหรือลำบากไม่เกี่ยวอะไรกับแนวคิดการมีลูกชายของชาวบ้าน เศรษฐีในหมู่บ้านเจ้าของคฤหาสน์ใหญ่ ขับรถหรู แต่ก็ไม่มีลูกชายเหมือนกัน ทำให้มีเสียงเยาะเย้ยถากถาง : “มีเงินมากมายแต่ไม่มีลูกชายแล้วจะเก็บไว้ให้ใคร ให้ลูกสาวหรอ?”

“บ้านตั้งใหญ่โต แต่อีกหน่อยก็เหลือแค่สองตายาย คิดแล้วก็น้ำตาคลอ…” เวลาพ่อแม่เราออกไปข้างนอกแทบจะต้องเดินก้มหน้าตลอดเวลา ผู้คนต่างนินทากันลับหลังว่า : “ป่านนี้ยังไม่มีลูกชายอีก จะเหนื่อยไปทำไป ไม่มีลูกชาย…”

ในสังคมนี้ ไม่มีลูกชายจะตายหรือยังไง? ใช่ สำหรับคนรุ่นก่อนแล้ว มีลูกชายโง่ๆสักคน ยังดีกว่ามีลูกสาวเก่งๆ 10 คน เพราะลูกชายเป็นลูกของตัวเอง ส่วนลูกสาวอีกหน่อยก็ต้องแต่งเข้าบ้านคนอื่น



หลายปีมานี้พ่อแม่ไม่สามารถยืดอกมองใครได้ พวกเรา 6 คนพี่น้องก็เหมือนกัน แม่บอกพวกเราว่า : “มีลูกชายถือเป็นโชค ไม่มีก็ถือเป็นโชคชะตา แม่อยากให้พวกเจ้าทุกคนพยายาม ตั้งใจเรียนหนังสือ โตขึ้นก็ไปทำงานในเมือง ไปมีชีวิต คนในเมืองไม่ค่อยแคร์เรื่องลูกสาวลูกชาย พ่อแม่อยู่กับลูกสาวก็ได้ ลูกชายก็ได้ พวกเจ้าล้วนเป็นเด็กผู้หญิง อีกหน่อยต้องลำบากและทรมานกับการคลอดลูก แต่ถ้าเจ้ามีชีวิตเป็นของตัวเอง มีอิสระทางการเงิน จะมีลูกสาวหรือลูกชายก็ไม่เป็นไร…”



พวกเรา 6 คนพี่น้องที่อายุห่างกันแค่คนละปีฟังแล้วก็น้ำตาไหล กอดแม่ร้องไห้กลม พวกเราทุกคนสัญญากันในใจว่าจะตั้งใจเรียน จะเรียนให้เก่งกว่าเด็กผู้ชายในโรงเรียน ทำนาทำไร่ พวกเราก็ไม่หวั่น ต้องทำให้เก่งกว่าพวกผู้ชาย! พ่อแม่เห็นอย่างนั้นก็ภูมิใจ แม้ว่าพ่อปากจะยังบอกว่าอยากได้ลูกชาย แต่เราดูออกว่าในใจพ่อภูมิใจ



เราเป็นคนแรกในบ้านที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ และเป็นคนแรกในหมู่บ้านที่สอบวัดระดับในเมืองได้เป็นที่ 1 ด้วย คนในหมู่บ้านมากมายไม่ว่าชายหรือหญิงเด็กหรือคนแก่มารวมตัวกันที่บ้านเรา ต่างพูดกันว่า : “ดูเลย ต้องเรียนให้เก่งเหมือนชุนฮวา สอบได้เป็นที่หนึ่งของเมืองเลย เยี่ยมจริงๆ”

“ซงเหอ ลูกสาวเธอเก่งจริงๆ อย่างนี้มีลูกสาวก็พอแล้ว ลูกชายฉันนะมหาวิทยาลัยยังเข้าไม่ได้เลย”

“ลูกสาวดีแล้วยังไง อีกหน่อยก็ต้องแต่งออกไปอยู่บ้านคนอื่นอยู่ดี”

ต่างคนต่างพูดกันไปต่างๆนานา เราไม่สนใจ แค่พ่อแม่ดีใจก็พอ แค่พอโตแล้วสามารถดูแลพ่อแม่ได้ ไม่ว่าคนอื่นจะว่ายังไง เราไม่สนใจทั้งนั้น ตอนเราอยู่ปี 2 น้องสาวคนที่ 2 ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แล้วจากนั้นก็ทยอยกันสอบเข้าได้ทุกคนยกเว้นน้องคนสุดท้อง พ่อที่หน้าดำคร่ำเคร่งมาโดยตลอดในที่สุดก็ยิ้มได้ ส่วนแม่จากหน้าซีดๆก็มีสีซะที พ่อแม่ยิ่งพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อส่งเสียพวกเราเรียนมหาวิทยาลัย แถมเพื่อครอบครัวพ่อยังเลิกสูบบุหรี่หลังจากติดมาหลายปี แม่เองหลังจากไม่ได้ซื้อเสื้อมานานก็ซื้อใหม่แล้ว…

ตรุษจีนปีที่แล้ว พวกเรา 6 คนพี่น้องทำงานกันที่เมืองต่างๆตกลงนัดกัน จะกลับบ้านไปฉลองตรุษจีนด้วยกัน เราพาสามีและลูกชายขับรถกลับไปด้วย น้องคนที่สองก็แต่งงานแล้ว ขับรถกลับมากับสามีเหมือนกัน วันต่อมาน้องคนที่ 3, 4, 5 ก็ทยอยกันขับรถกลับมาบ้านด้วย สนามหญ้าหน้าบ้านของบ้านเรา ก็เลยเต็มไปด้วยรถหรู

“ทำไมน้องเล็กยังไม่กลับมาล่ะแม่” เราถามแม่

“น้องบอกว่ายุ่งมาก แกเปิดบริษัทค้ากับเมืองนอกเองในเมือง ทำธุรกิจกับพวกประเทศอาหรับ” แม่เล่าให้เราฟัง

“ปี๊นๆๆ” รถหรูคันหนึ่งวิ่งตรงเข้ามา เราเห็นน้องเล็กนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับโบกมือให้ “เจ้ เอารถเก่าๆของเจ้หลบไป ไม่งั้นหนูชนนะ!”

“มาได้ซะที” เราโบกมือทักทาย แล้วเดินตรงไปหา : “ทำไมเพิ่งมาเนี่ย”

“เหนื่อยน่ะสิเจ้ เมื่อคืนเพิ่งกลับมาจากอิหร่านเอง คอนเทนเนอร์ 10 กว่าตู้รอให้บรรจุของ ยุ่งจนจะไม่มีเวลาหายใจแล้ว”

“งั้นลงมาพักเร็ว”

หน้าบ้านมีญาติๆมากมายมายืนออกัน พวกเขาพากันวิพากษ์วิจารณ์ ยืดคอยื่นหน้าเข้ามาดูพลางว่า : “พวกเอ็งดู ลูกสาว 6 คน รถหรู 6 คัน”

“รู้อย่างนี้มีลูกสาวเก่งๆแบบนี้ดีกว่า ได้ยินว่าสามีของชุนฮวาเป็นเถ้าแก่ใหญ่ด้วย”

“นั่นน่ะสิ ลูกชายที่บ้าน 3 คน ยังหาเมียไม่ได้สักคนทำยังไงดีเนี่ย”

“ยังไม่แต่งแล้วยังไง ลูกชายคนโตฉันนะ เมื่อปีก่อนก็กลับมาขอเงิน บอกว่าจะเอาไปซื้อบ้านในเมือง มีบ้านถึงจะหาเมียได้ แล้วฉันจะเอาเงินที่ไหนไปให้ น้องชายอีกสองคนของมันเอาไปใช้จนหมดแล้ว พอไม่มีเงินให้ มันก็หายหัวไปไม่โผล่มาให้เห็นหน้าอีกเลย”

ครอบครัวเรา 10 กว่าคนนั่งคุยกันให้ห้องรับแขก ปู่กับย่ายิ้มหน้าบานมองพวกเรา แม่พูดเก่งสุด พ่อก็ยังทำหน้าเหมือนเดิม ไม่พูดอะไร แต่มองดูพวกเราด้วยสายตาภาคภูมิใจ แต่ฉันสังเกตเห็นว่า พอนั่งหลังตรงมองพวกเรา ไม่ก้มหน้าอีกต่อไป แล้วตอนที่พวกเราไม่สังเกต พ่อก็จะแอบยิ้ม…
Different Themes
Written by Lovely

Aenean quis feugiat elit. Quisque ultricies sollicitudin ante ut venenatis. Nulla dapibus placerat faucibus. Aenean quis leo non neque ultrices scelerisque. Nullam nec vulputate velit. Etiam fermentum turpis at magna tristique interdum.

0 ความคิดเห็น