
ถ้าดูจากรูปหรือพบเจอบนท้องถนนแบบไม่มีคำบรรยาย.. ใครๆก็คงคิดว่าแม้งก็แค่เด็กแว้นทั่วไป แต่จากสายตากูที่รับรู้เรื่องราวนั้นมันต่างจากภาพที่เห็นโดยสิ้นเชิง.. เรื่องมีอยู่ว่ากูโทรหาเพื่อนเพื่อจะโทรไปอวยพรวันปีใหม่ ฮัลโหลอยู่ใหน? เพื่อนกูตอบกลับมาว่ากำลังขรถพาแฟนไปชะอำ กูร้องห๊ะ!! ขี่รถพาแฟนไปชะอำ? บ้านมึงอยู่กำแพงแสนเห้ยย!! ขี่มอเตอร์ไซค์ไปชะอำนี่นะไปกลับ400กว่ากิโล กูถามว่าคิดยังไงขี่ไปชะอำ เพื่อนก บอกว่าพาแฟนมาซื้อของก่อนจะเที่ยงคืนขึ้นวันปีใหม่ แฟนที่ซ้อนท้ายมาบอกว่าปีนีไม่ได้ไปไหนเลยอยากไปทะเลสกครั้งได้ใหม.. มันหันกลับไปตอบแฟนแบบไม่ลังเลว่าไปสิเดียวเค้าจะขี่พาไป (ตอนกูโทรหา มันขี่จนถึงเพชรบุรีแล้ว) กูเลยบอกมันว่าถึงนั่นไห้รอก่อนเดียวกูขับรถตามไป เพราะรู้สึกเป็นห่วงมัน ขากลับกูขับรถตามหลัง กูเข้าใจเลยว่าความสุขไม่ใชสิ่งที่สวยหรูหรือความสดวกสบายเสมอไป.. กูเห็นรอยยิ้มจากคน2คนที่ดูมีความสุข ถึงแม้หน้าจะโต้ลมตัวจะเปียกฝนแต่ก็ดูอบอุ่นกว่ากูที่ขบรถยนต์มีแอร์มีที่บังลมบังฝนนั่งอยู่ภายในรถที่สดวกสบายเสียอีก จนกูอดอมยิ้มและรู้สึกอิจฉาไม่ได้เลยจริงๆ “คืนนี้เขาได้เป็นซานต้ามอบของขวัญไห้กับคนที่เขารักแลว”
ขอบคุณที่มา :เอิ้น'ฝน กะได่
0 ความคิดเห็น