Open top menu
วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ยืนยันไม่มีการลงโทษพนักงานที่เผยแพร่เฟซบุ๊กไลฟ์จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แถมยังชื่นชมที่กล้าหาญ เสียสละป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัยหลังออกสื่อ แจงการดูข้อมูลบัญชีต้องดูเจตนาและผลกระทบเป็นหลัก ชี้มิจฉาชีพให้มาเอง อีกทั้งไม่ได้เอาไปทำประโยชน์ใดๆ

1 ธ.ค.60 จากกรณีที่ น.ส.มารีนา แสงฉาย พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรบินสัน ราชบุรี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาหลอกลวง โดยอ้างว่าบัญชีธนาคารของเธอมีปัญหา พัวพันต่อการกู้เงินกับธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ แต่ได้อาศัยไหวพริบโดยถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพื่อแฉพฤติกรรมจนได้เลขที่บัญชี และชื่อบัญชีของคนร้าย กระทั่งได้รับคำชื่นชมจากชาวโซเชียล แต่อีกด้านหนึ่ง มีทนายความบางคน ระบุว่า การกระทำดังกล่าวสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายนั้น

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับทาง MGR Online ชี้แจงว่า ทางผู้บริหารชื่นชม น.ส.มารีนา ที่มีความกล้าหาญ เสียสละที่จะช่วยป้องกันมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้น แต่เราเองก็เป็นห่วงมากที่สุดเรื่องความปลอดภัยของพนักงานของเรา เนื่องจากยังต้องทำงานอยู่ในพื้นที่ เมื่อไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนแล้วก็ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของเขาต่อไป

“จากกระแสข่าวในโลกโซเชียลว่าจะถูกทางธนาคารลงโทษหรือไม่นั้น ธนาคารไม่มีนโยบายที่จะลงโทษพนักงานตามที่มีกระแสข่าวออกมา” นายสารัชต์ กล่าว

เมื่อถามว่า มีเฟซบุ๊กทนายความรายหนึ่ง ระบุว่า การที่พนักงานธนาคารไปค้นข้อมูลเลขที่บัญชีที่ได้รับจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า มีความผิดหรือไม่ นายสารัชต์ เห็นว่าเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นนโยบายธนาคารอยู่แล้วที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวลูกค้า แต่ทุกอย่างก็ต้องดูเหตุผลและผลกระทบ เช่น วัตถุประสงค์ พนักงานตั้งใจที่จะเอาข้อมูลลูกค้าเอาไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นหรือไม่

“ในกรณีนี้ข้อมูลทุกอย่าง เป็นข้อมูลที่มิจฉาชีพเป็นคนให้มาเอง โดยเฉพาะเลขที่บัญชี พนักงานไม่ได้อยู่ดีๆ จะเข้าไปในระบบแล้วบอกว่าจะไปเอาข้อมูลเพื่อที่จะเอาไปทำประโยชน์อะไรเลย แล้วเราก็เห็นอยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลของมิจฉาชีพ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องดูด้วยว่า มันมีเหตุผลและมีผลกระทบนัยยะสำคัญไหม จริงๆ แล้วเหตุผลของเขาเป็นเหตุผลที่ดีด้วยซ้ำ ในการช่วยป้องกันมิจฉาชีพ” นายสารัชต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ธนาคารยืนยันว่าจะไม่มีการลงโทษใดๆ แก่พนักงานรายนี้ นายสารัชต์ กล่าวว่า “แน่นอน”

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตั้งศูนย์ปฏิบัติการสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ธนาคารได้ให้ความร่วมมือหรือป้องกันอย่างไรบ้าง นายสารัชต์ กล่าวว่า ทางธนาคารฯ ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นประจำ กับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับมิจฉาชีพทางการเงิน ปกติเวลามีเคสลูกค้าเหล่านี้เราก็จะให้ความสำคัญในการดูแลบัญชีลูกค้า

ทั้งนี้ ทุกครั้งที่มีการถูกหลอกเรื่องของการโอนเงินไปยังบัญชีปลายทาง เราก็จะรีบตามดูว่า บัญชีปลายทางนั้นเป็นใคร ถ้าหลายครั้งเราอายัดได้เราก็จะอายัด เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับลูกค้า หากลูกค้าของธนาคารฯ รายใดได้รับผลกระทบ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ก็มีช่องทางได้หลายทาง อาทิ สาขาของธนาคาร หรือ คอลเซ็นเตอร์ 0-2777-7777

ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
Different Themes
Written by Lovely

Aenean quis feugiat elit. Quisque ultricies sollicitudin ante ut venenatis. Nulla dapibus placerat faucibus. Aenean quis leo non neque ultrices scelerisque. Nullam nec vulputate velit. Etiam fermentum turpis at magna tristique interdum.

0 ความคิดเห็น