Open top menu
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561

 จากกรณีประเด็นข่าวหลังหลังผู้สืบข่าวจากทางช่อง 7 ได้ลงพื้นที่ไปถ่ายวิดีโอ จุดกลับรถในตัวเมือง ลพบุรี​ พบผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร เป็นรถเก๋งฮอนด้าทำผิดกฎหมายแล้ว ได้เดินมาหาเรื่องผู้ถ่ายวิดีโอ ต่อว่าว่าถ่ายทำไมทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นทำผิดกฎหมายก็ไม่ยอม

       ล่าสุดทางด้านผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Somsak Amthong' ได้ออกมาเผยความคืบหน้า ชายหัวร้อนขับรถเก๋งได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมเข้ามาขอโทษผู้สืบข่าวช่อง 7 แล้วเจอ 2 ข้อหาแต่ยังไม่จบแฟนสาวของขึ้นออกอาการท้าทาย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ



ความคืบหน้าลพบุรีเกิดเหตุวัยรุ่นหัวร้อนชายชุดดำขับรถยนต์กลับรถในที่ห้ามกลับรถทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ก็ยังฝ่าฝืน แถมยังจอดรถลงมาข่มขู่ทำร้ายและพยายามแย่งโทรศัพท์นักข่าวที่ปฎิบัติหน้าที่ ล่าสุดเข้าพบพนักงานสอบสวน แล้วเจอ 2 ข้อหาแต่ยังไม่จบแฟนสาวของขึ้นออกอาการท้าทายจนผู้กำกับต้องเชิญออกนอกห้องสอบสวน



หลังจากที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14 นาฬิกา ของวันที่ 1 กันยายน 2561 ขณะที่นายสมศักดิ์ อ่ำทอง ผู้สื่อข่าวพิเศษช่อง 7 HD ประจำจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยเด็กชาย ป 6 เด็กหญิง ป 4 นำหลักฐานคลิปวีดีโอหลังถูกชายชุดดำข่มขู่จะแย่งโทรศัพท์มือถือและผลักอกจะทำร้ายร่างกาย กับร้อยตำรวจเอกวิชัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี



ล่าสุดวันนี้ นายชัยวัฒน์ บุตรเนตร์ พ่อของชายชุดดำหัวร้อนที่ก่อเหตุ คือนายบัญญัติ บุตรเนตร์ อายุ 25 ปี พร้อมแฟนสาว คือนางสาวสุวิมล เสมาปรุ อายุ 26 ปี เจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ขฉ-6835 นครราชสีมา ได้นำตัวเข้าพบกับพันตำรวจเอกศักดิ์ชัย เกษโกมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองลพบุรี และ ร้อยตำรวจเอกวิชัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เจ้าของคดี โดยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถเก๋งและเป็นชายชุดดำที่เป็นคนขับรถคันดังกล่าวและเป็นคนที่ก่อเหตุในวันดังกล่าวบนสะพานลอย หน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา1



โดยหลังจากที่แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี จึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบ 2 ข้อหา คือ ความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ข้อ 1 มาตรา 43 (3)ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร มาตรา 53 (2) ข้อ 2 กลับรถในที่คับขันปรับตามมาตรา 157 ปรับตั้งแต่ 400-1,000 ข้อหาที่ 2 ทำร้ายร่างกาย มีความผิดตามประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายหรือจิตใจระวางโทษจำคุกไม่เกิด 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็นระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท



ซี่งทางด้านนายบัญญัติ ชายชุดดำผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพและยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา และได้มีการขอโทษทีมข่าว และได้สำนึกผิดในการกระทำดังกล่าวต่อหน้าผู้กำกับการ พร้อมกล่าวฝากขอโทษทุกคนขอโทษสังคมที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจากความอารมย์ร้อนของตนเองจนส่งผลกระทบกับตนเองและครอบครัวเป็นบนเรียนที่ต้องจดจำและจะไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีกต่อไป



พนักงานสอบสวน จึงสั่งลงโทษปรับในข้อหาทั้ง 2 ข้อหา เป็นเงิน 11,000 บาท แต่ทางนายบัญญัติ แจ้งว่าตนเองมีเงินติดตัวมาเพียง 2,000 บาท จึงขอความกรุณาทางพนักงานสอบสวนและทางผู้สื่อข่าว ลดค่าปรับทั้ง 2 ข้อหา ในวงเงิน 2,000 บาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวน และผู้สื่อข่าวเห็นว่านายบัญญัติ ได้สำนึกผิดและกล่าวขอโทษจึงไม่ติดใจและยินยอมให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทตามที่ร้องขอซึ่งไม่ขัดกับข้อกฎหมาย



เรื่องทุกอย่างกำลังจะจบอยู่ๆนางสาวสุวิมล แฟนสาวเกิดของขึ้นต่อหน้าผู้กำกับและพนักงานสอบสวน โวยวายไม่ยอมรับผิดแถมยังมีการโฟสข้อความต่อว่า ทั้งที่นายบัญญัติ ก็ได้พยายามห้ามปราบแฟนสาวและกล่าวคำขอโทษ แทนแฟนสาวก็ยังไม่ยอมหยุด จนผู้กำกับและพนักงานสอบสวน เชิญออกนอนห้องสอบสวน ทำให้เกิดความวุ่นวาย ให้แยกตัวกลับไปก่อนทำให้เกิดประเด็นดราม่าซึ่งทางผู้สื่อข่าวหลังจากที่เจรจากับนายบัญญัติ จนตกลงกันได้ก็ได้แยกย้ายกันกลับ ส่วนกรณีนาวสางสุวิมล ทางญาติจะได้นัดให้นางสาวสุวิมล มาพบและเจรจาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง



สาวหัวร้อย



แฟนหนุ่มขอโทษแล้ว



ไปชมคลิปกันเลยค่ะ



ชาวเน็ตจวกยับ



ไปชมคลิปกันเลยค่ะ

ขอขอบคุณที่มาจาก : Somsak Amthong
ข่าวจาก : tkvariety
Tagged
Different Themes
Written by Lovely

Aenean quis feugiat elit. Quisque ultricies sollicitudin ante ut venenatis. Nulla dapibus placerat faucibus. Aenean quis leo non neque ultrices scelerisque. Nullam nec vulputate velit. Etiam fermentum turpis at magna tristique interdum.

0 ความคิดเห็น