จากกรณีประเด็นข่าวหลังหลังผู้สืบข่าวจากทางช่อง 7 ได้ลงพื้นที่ไปถ่ายวิดีโอ จุดกลับรถในตัวเมือง ลพบุรี พบผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร เป็นรถเก๋งฮอนด้าทำผิดกฎหมายแล้ว ได้เดินมาหาเรื่องผู้ถ่ายวิดีโอ ต่อว่าว่าถ่ายทำไมทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นทำผิดกฎหมายก็ไม่ยอม
ล่าสุดทางด้านผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Somsak Amthong' ได้ออกมาเผยความคืบหน้า ชายหัวร้อนขับรถเก๋งได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมเข้ามาขอโทษผู้สืบข่าวช่อง 7 แล้วเจอ 2 ข้อหาแต่ยังไม่จบแฟนสาวของขึ้นออกอาการท้าทาย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ความคืบหน้าลพบุรีเกิดเหตุวัยรุ่นหัวร้อนชายชุดดำขับรถยนต์กลับรถในที่ห้ามกลับรถทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ก็ยังฝ่าฝืน แถมยังจอดรถลงมาข่มขู่ทำร้ายและพยายามแย่งโทรศัพท์นักข่าวที่ปฎิบัติหน้าที่ ล่าสุดเข้าพบพนักงานสอบสวน แล้วเจอ 2 ข้อหาแต่ยังไม่จบแฟนสาวของขึ้นออกอาการท้าทายจนผู้กำกับต้องเชิญออกนอกห้องสอบสวน
หลังจากที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14 นาฬิกา ของวันที่ 1 กันยายน 2561 ขณะที่นายสมศักดิ์ อ่ำทอง ผู้สื่อข่าวพิเศษช่อง 7 HD ประจำจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยเด็กชาย ป 6 เด็กหญิง ป 4 นำหลักฐานคลิปวีดีโอหลังถูกชายชุดดำข่มขู่จะแย่งโทรศัพท์มือถือและผลักอกจะทำร้ายร่างกาย กับร้อยตำรวจเอกวิชัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เพื่อให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
ล่าสุดวันนี้ นายชัยวัฒน์ บุตรเนตร์ พ่อของชายชุดดำหัวร้อนที่ก่อเหตุ คือนายบัญญัติ บุตรเนตร์ อายุ 25 ปี พร้อมแฟนสาว คือนางสาวสุวิมล เสมาปรุ อายุ 26 ปี เจ้าของรถเก๋ง ฮอนด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ขฉ-6835 นครราชสีมา ได้นำตัวเข้าพบกับพันตำรวจเอกศักดิ์ชัย เกษโกมล ผู้กำกับการ สภ.เมืองลพบุรี และ ร้อยตำรวจเอกวิชัย แสนบุตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เจ้าของคดี โดยแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรถเก๋งและเป็นชายชุดดำที่เป็นคนขับรถคันดังกล่าวและเป็นคนที่ก่อเหตุในวันดังกล่าวบนสะพานลอย หน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา1
โดยหลังจากที่แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี จึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบ 2 ข้อหา คือ ความผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ข้อ 1 มาตรา 43 (3)ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร มาตรา 53 (2) ข้อ 2 กลับรถในที่คับขันปรับตามมาตรา 157 ปรับตั้งแต่ 400-1,000 ข้อหาที่ 2 ทำร้ายร่างกาย มีความผิดตามประมาลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายหรือจิตใจระวางโทษจำคุกไม่เกิด 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท มาตรา 392 ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็นระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ซี่งทางด้านนายบัญญัติ ชายชุดดำผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพและยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา และได้มีการขอโทษทีมข่าว และได้สำนึกผิดในการกระทำดังกล่าวต่อหน้าผู้กำกับการ พร้อมกล่าวฝากขอโทษทุกคนขอโทษสังคมที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจากความอารมย์ร้อนของตนเองจนส่งผลกระทบกับตนเองและครอบครัวเป็นบนเรียนที่ต้องจดจำและจะไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีกต่อไป
พนักงานสอบสวน จึงสั่งลงโทษปรับในข้อหาทั้ง 2 ข้อหา เป็นเงิน 11,000 บาท แต่ทางนายบัญญัติ แจ้งว่าตนเองมีเงินติดตัวมาเพียง 2,000 บาท จึงขอความกรุณาทางพนักงานสอบสวนและทางผู้สื่อข่าว ลดค่าปรับทั้ง 2 ข้อหา ในวงเงิน 2,000 บาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวน และผู้สื่อข่าวเห็นว่านายบัญญัติ ได้สำนึกผิดและกล่าวขอโทษจึงไม่ติดใจและยินยอมให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาทตามที่ร้องขอซึ่งไม่ขัดกับข้อกฎหมาย
เรื่องทุกอย่างกำลังจะจบอยู่ๆนางสาวสุวิมล แฟนสาวเกิดของขึ้นต่อหน้าผู้กำกับและพนักงานสอบสวน โวยวายไม่ยอมรับผิดแถมยังมีการโฟสข้อความต่อว่า ทั้งที่นายบัญญัติ ก็ได้พยายามห้ามปราบแฟนสาวและกล่าวคำขอโทษ แทนแฟนสาวก็ยังไม่ยอมหยุด จนผู้กำกับและพนักงานสอบสวน เชิญออกนอนห้องสอบสวน ทำให้เกิดความวุ่นวาย ให้แยกตัวกลับไปก่อนทำให้เกิดประเด็นดราม่าซึ่งทางผู้สื่อข่าวหลังจากที่เจรจากับนายบัญญัติ จนตกลงกันได้ก็ได้แยกย้ายกันกลับ ส่วนกรณีนาวสางสุวิมล ทางญาติจะได้นัดให้นางสาวสุวิมล มาพบและเจรจาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง
สาวหัวร้อย
แฟนหนุ่มขอโทษแล้ว
ไปชมคลิปกันเลยค่ะ
ชาวเน็ตจวกยับ
ไปชมคลิปกันเลยค่ะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : Somsak Amthong
ข่าวจาก : tkvariety
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น